ห้ามพลาด ! 19 สิ่ง ที่คู่บ่าวสาวควรรู้สำหรับเตรียมงานแต่งงาน

ใกล้เข้าช่วงซีซั่นงานแต่งงานกันแล้ว คู่บ่าวสาวหลายคู่คงกำลังตื่นเต้นกับงานแต่งงานที่สำคัญและเป็นความทรงจำของชีวิต หลายคู่ที่มีแพลนจะแต่งงานก็ได้ฤกษ์เดินสายดูงานเพื่อนฝูงกัน แต่มีอีกหลายสิ่งที่แอดมินจะแนะนำให้กับคนที่กำลังลงตัวและวางแผนจะแต่งงานเพื่อให้ได้เตรียมตัวไปพลางๆ แบบฉบับย่อ กับ “19 สิ่ง ที่คู่บ่าวสาวควรรู้เกี่ยวกับการเตรียมงานแต่งงาน” กันค่ะ

24296334_1357459091047103_713526495147675154_n

1.คู่บ่าวสาวส่วนมากจะจองโรงแรมล่วงหน้า 7-12 เดือน การจองโรงแรมหรือสถานที่จัดงานล่วงหน้าเป็นเรื่องที่ดีสำหรับคู่บ่าวสาว โดยระยะเวลาทั่วไปจะอยู่ที่ประมาณ 7-12 เดือน ซึ่งเมื่อได้สถานที่แล้ว ก็จะสามารถเคลียร์รายละเอียดอื่น เช่น รูปแบบของาน รูปแบบอาหาร รูปแบบการตกแต่ง รวมไปถึง ยิ่งเมื่อมีเวลามาก ก็มีเวลาให้คิดให้ตัดสินใจได้มากขึ้น หลายคู่กลับมาดูโรงแรม 3-4 ครั้งก่อนตัดสินใจ ก็แน่นอนว่า สถานที่จัดงานแต่งงาน แทบจะเป็นองค์ประกอบสำคัญของงานเลยก็ว่าได้ แน่นอนว่าการจะเลือกที่ใดที่หนึ่งนั้น จะต้องมีเรื่อง ความสะดวกสบาย การเดินทาง ความพร้อมที่จะรองรับแขกผู้มาร่วมงานได้อย่างดี

 

2.ฤกษ์ดี ฤกษ์เด่น เลขสวย โดยเฉพาะ วันเสาร์-อาทิตย์ รีบจองโรงแรมแต่เนิ่นๆ 11070836_678628768930142_327473279705323358_n

คู่บ่าวสาวท่านใดที่เลือกวันสวยไว้ เช่น วันพุธที่ 9/1/19 วันจันทร์ที่ 11/11/19วันอาทิตย์ที่ 5/5/19 วันที่พฤหัสบดีที่ 8/8/19 วันจันทร์ที่ 1/9/19 หรือ วันอาทิตย์ที่ 1/9/19 เป็นต้น แน่นอนว่าหลายคู่คงเลือกตรงกัน รีบจองสถานที่ไว้แต่เนิ่นๆ เล็งที่ไหนไว้รีบติดต่อไปได้เลยค่ะ

 

3.3-3-3 เลขมงคล ให้งานราบรื่น เคล็ดลับดีๆ ที่อยากบอกต่อ จากประสบการณ์ที่ผ่านมา พบว่า หลายคู่รอถึงเดือนสุดท้ายก่อนงานแล้วเข้ามาสรุปงาน เลือกธีมงาน เลือกอาหาร และชิมอาหาร โดยในช่วงเดือนสุดท้าย ถือได้ว่าเป็นช่วงที่คู่บ่าวสาวจะวุ่นวายมากที่สุด ทั้งเดินสายแจกการ์ด ซื้อของชำร่วย และจิปาถะ

3เดือนก่อนงานสรุปรายละเอียด แอดมินแนะนำให้เข้ามาสรุปรายละเอียดตั้งแต่ 3 เดือนก่อนวันงาน ทั้งในส่วนของธีมงานตกแต่ง ประเภทอาหาร จำนวนแขก จะได้หมดห่วงเรื่องนี้ไป

3 สัปดาห์ คอนเฟิร์มยอดผู้ร่วมงานกับสถานที่จัดงาน รีคอนเฟิร์มช่างภาพ ช่างแต่งหน้า ช่างทำผม แน่นอนว่า เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็วยิ่งในช่วงเดือนสุดท้ายก่อนงาน อะไรก็จะดูเหมือนไม่ทันการณ์ไปเสียหมด รายละเอียดต่างๆก็ดูเพิ่มมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เบรกทุกอย่างไว้ กลับมานั่งคิดว่าจำนวนแขกที่แจ้งสถานที่จัดงานไว้พอดีหรือไม่ จะเพิ่มหรือจะลด เพราะจำนวนแขกจะมีผลต่อเรื่องอาหารของวันงาน ยิ่งยอดทะยานสูงขึ้นแบบทะลุลิมิตห้องจะรับไหว ก็ต้องกลับไปคุยกับสถานที่จัดงานแล้วว่าจะทำอย่างไรได้บ้าง อย่าลืมที่จะรีคอนเฟิร์มช่างภาพ ช่างแต่งหน้า ช่างทำผม หรือทีมงานอื่นๆที่จะมีส่วนเกี่ยวข้องภายในงาน เพราะระยะเวลาของงานที่ยาว อาจจะเกิดความผิดพลาดกันได้ คอนเฟิร์มวันแล้วอย่าลืมคอนเฟิร์มเวลากันด้วยนะคะ

3 วัน ตรวจสอบเช็คลิสต์อีกครั้ง เวลานี้ทำอะไรไม่ได้มาก นอกจากก้มมองเช็คลิสต์อีกครั้ง และทำใจให้สบาย เตรียมตัวการเป็นคู่บ่าวสาวที่มีความสุขที่สุดในวันสำคัญกัน

Gatsby at BDG_171126_0029

 

4.เช็คลิสต์ดี ราบรื่นไปครึ่งทาง เช็คลิสต์ เป็นเครื่องมือที่สำคัญและเป็นความทรงจำที่ดีระหว่างคน 2 คนว่าตั้งแต่เริ่มตัดสินใจใช้ชีวิตด้วยกัน ได้ทำอะไรร่วมกันมาบ้าง รวมถึงเป็นเครื่องมือในการช่วยเตือนความจำว่าทำอะไรไปแล้วบ้าง และยังไม่ได้ทำอะไร

 

5.การ์ดแต่งงานแจกล่วงหน้า 2-4 สัปดาห์ กำหนดเวลาแจกการ์ดที่ดีที่สุด คือประมาณ 2-4 สัปดาห์ก่อนงาน ยิ่งในช่วงปลายปี แขกคงได้รับการ์ดแต่งงานกันหลายใบ จนสับสนกันไปบ้าง ช่วงระยะเวลานี้จะทำให้จดจำได้ง่าย

 

6.ช่างภาพเลือกแบบที่เราชอบ อย่าเลือกตามคนอื่น เรื่องของช่างภาพเป็นเรื่องสำคัญเช่นกัน ปัจจุบันมีช่างภาพให้เลือกเยอะมาก แค่เสิร์ชอินเตอร์เนตก็เจอ สิ่งแรกที่ขอดูก่อนตัดสินใจคือ Portfolio เป็นในแบบที่เราชอบหรือไม่ ขนาดของพื้นที่ก็สำคัญเช่นกัน งานที่มีพื้นที่ใหญ่ก็ควรมีช่างภาพหลายคน เพื่อไว้ถ่ายเก็บได้ทั่วถึง แต่ก็ควรจะมีช่างภาพถ่ายหน้าฉากภาพรับแขก 1 ทีม

Sfk wedding_170918_0022

 

7.ช่างภาพงานแต่งงานควรมีอุปกรณ์ให้พร้อม   คู่บ่าวสาวอย่าลืมสอบถามช่างภาพเกี่ยวกับอุปกรณ์ไฟที่จะใช้สำหรับถ่ายภายในงาน หากแสงสว่างไม่พอจะทำให้รูปที่ออกมาไม่สวย โดยเฉพาะสถานที่จัดงานแต่งงานกลางแจ้งหากเป็นไปได้ ทางทีมถ่ายภาพสามารถเข้าไปดูสถานที่เบื้องต้นก่อน เพื่อเตรียมอุปกรณ์

 

8.ทดลองแต่งหน้ากับช่างแต่งหน้าก่อนถึงวันงาน

ภาพงานมงคลสมรส คุณสุภาวดี และ มร.ดันแคน

ภาพงานมงคลสมรส คุณสุภาวดี และ มร.ดันแคน

โดยปกติหากซื้อบริการแต่งหน้าเจ้าสาว หลายทีมจะมีราคาพิเศษให้ทดลองแต่งหน้าดูก่อน 1 ครั้ง หรืออาจจะเหมาอยู่ในแพคเกจ การทดลองแต่งหน้าก่อนนั้นจะทำให้ได้ปรับแก้ได้ก่อนวันงานว่าควรจะแต่งหน้าอย่างไร อีกทั้งยังเป็นการให้ช่างแต่งหน้ารู้จักและคุ้นเคยกับโครงหน้าเจ้าสาวก่อน

 

9.ทรงผมแต่ละทรงไม่ได้เหมาะกับทุกคน เป็นเจ้าสาวทั้งทีก็อยากจะสวยที่สุด เปิดหาตามอินเตอร์เนตทุกวัน มีทรงผมที่เห็นคนอื่นทำก็สวยจนอยากได้ทรงนี้บ้าง แอดมินอยากจะขอให้ลองทำดูก่อน เพราะบางทรงผมไม่ได้เหมาะกับทุกโครงหน้า รวมไปถึงชุดที่จะใส่ก็เป็นองค์ประกอบสำคัญของการเลือกทรงผมเช่นเดียวกัน

 

10.ชุดเจ้าสาวมักแก้จนเกือบวันงาน อย่าชะล่าใจว่า หุ่นตัวเองคงที่จนไม่ต้องแก้ไข เพราะความเครียดระหว่างการจัดงานที่อาจจะทำให้คุณผอมลง หรืออ้วนพุ่งจนชุดที่วัดไว้แทบปริ ไม่ใช่เรื่องผิดปกตินะคะ ชุดเจ้าสาวที่สวยคือต้องพอดีตัว เน้นย้ำว่าพอดีตัวจริงๆ ใส่แล้วแนบไปกับตัว ดังนั้นอาจจะต้องตัดสินใจว่าจะปรับแก้ตรงไหนหรือไม่ก่อนวันงานสัก 2-3 วัน

 

11.พรีเซนเตชั่นเทสก่อนวันงาน แอดมินเคยมีประสบการณ์เรื่องของการเทสพรีเซนเตชั่นที่มั่นใจว่าไฟล์จะไม่มีปัญหา และหลายคู่ก็ถึงขนาดไปไม่ถูกเมื่อมาถึงงานก่อน 3 ชั่วโมงและทดลองพบว่าไฟล์เปิดไม่ได้ อาจจะไม่ใช่เพราะไฟล์ไม่ดี แต่เกิดจากเครื่องเล่นที่ไม่รองรับกับไฟล์ที่เซฟมา ซึ่งก็ไม่ทันการณ์แล้ว แน่นอนว่าพรีเซนเตชั่นเปรียบเสมือนเซอร์ไพรส์ของคู่บ่าวสาวที่มอบให้กับแขกที่มาร่วมงาน

 

12.ลิสต์เพลงในงานเรื่องใหญ่ที่มักถูกลืม รายละเอียดสำคัญที่จะทำให้งานปัง หรืองานกร่อย เพลงสำคัญ ในแต่ละช่วงพิธี เช่น เดินเข้างาน ตัดเค้ก รินแชมเปญ เป็นต้น และอย่าลืมบรีฟรายละเอียดสำคัญแบบนี้กับทีมรันคิว ทีมซาวด์ และทีมของสถานที่จัดงานแต่งงานด้วยนะคะ เพลงที่เล่นภายในงานสามารถเลือกและส่งให้กับทางนักดนตรีล่วงหน้าก่อนงานซัก 1 สัปดาห์ให้ได้เตรียมตัวกัน

Buddy O Hotel-264

 

13.โทนสีของงานไม่ไปด้วยกัน ทำอารมณ์เสีย งานวันสำคัญทั้งที ก็อยากใส่ทุกความชอบลงไปในงานของเรากันใช่ไหมคะ แอดมินเข้าใจค่ะ แต่หลายอย่างเมื่ออยู่ด้วยกันเยอะๆ แล้วไม่ไปด้วยกันก็ทำให้งานดูไม่สวยจนน่าอารมณ์เสีย เช่นกันเรื่องนี้ลองปรึกษากับทีมงานที่ดูแลเรื่องการตกแต่งสถานที่ดูค่ะ เขาจะมีไอเดียดีๆ และสามารถนำความต้องการของคู่บ่าวสาวมาปรับรวมได้อย่างลงตัว

02

 

14.จัดงานกลางแจ้ง อย่าลืมหาแพลน B ประเทศไทยเป็นประเทศที่อากาศเปลี่ยนได้ตลอดทั้งวัน โดยเฉพาะปลายปี 2560 – ต้นปี 2561 แสดงให้ได้เห็นแล้วว่า จะฤดูไหนๆ ฝนก็ตกได้ทั้งนั้น ความใฝ่ฝันของสาวๆอยากจัดงานในกลางแจ้งก็ยังไม่ถูกทำลายเสมอไป ถามหาแพลน Bกับสถานที่จัดงานไว้เนิ่นๆ เพื่อลดความเสี่ยงและลดความเครียดภายในวันงาน

36763533_1583079685151708_2277254302437212160_n

 

15.ทีมรันคิวต้องเป๊ะ นัดแนะกันให้ดี ทีมรันคิวเป็นเสมือนแม่งานที่ทำให้งานสมูท ถามว่าสำคัญหรือไม่ โดยปกติโรงแรมจะมีทีมงานคอยดูแลเบื้องต้นอยู่แล้ว หลายงานที่มีทีมรันคิวเข้ามาเอง และไม่ได้ประสานกับทางทีมของสถานที่จัดงานแต่งงานก็ทำให้เกิดความสับสนจนมึนกันไปข้างเหมือนกัน หากมีคนช่วยรันคิว ไม่ว่าจะเป็นทีมงานมืออาชีพ เพื่อน ญาติพี่น้อง ก็แนะนำให้ประสานงานและบรีฟกับทางสถานที่จัดงานไปในทิศทางเดียวกัน หาแม่งานหนึ่งคนที่เป็นเซนเตอร์เพื่อลดความผิดพลาด

 

16.จะให้ดี “แปลนโต๊ะ” ต้องมา

ME1_4482

งานเลี้ยงประเภทที่มีโต๊ะจำนวนมาก เช่น โต๊ะจีน หรืออาหารบุฟเฟต์ ควรจะมีแปลนโต๊ะหน้างานเพื่อให้แขกไปนั่งที่โต๊ะได้เลย ไม่ยืนออ หันซ้ายหันขวาไม่รู้จะไปทางไหน สามารถขอจากทางสถานที่จัดงานได้

 

17.เพื่อนเจ้าสาว เจ้าบ่าว ช่วยพาแขกเข้างาน ต่อเนื่องจากเรื่องแปลนโต๊ะ เมื่อมีแขกผู้ใหญ่จำนวนมาก นึกถึงงานเลี้ยงที่มีแขกตั้งแต่ 400 ท่านขึ้นไป ไม่รู้โต๊ะอยู่ตรงไหน ส่วนนี้ทางเพื่อนเจ้าบ่าว เพื่อนเจ้าสาว หน้าตาหน้ารัก สามารถช่วยได้อย่างดี แบ่งโซนดูแลกันไป พาไปนั่งที่โต๊ะ

 

18.เตรียมคำพูดขอบคุณแขกภายในงานไว้ เมื่อวันที่คุณไปยืนบนเวที มองลงมาเห็นผู้มาร่วมงานจำนวนมาก จะมีความรู้สึกปลื้มปริ่มใจจนพูดไม่อะไรไม่ออก ประหม่าใครถามอะไรก็แทบจะไม่ได้ยิน อาการนี้เกิดขึ้นจริงคอนเฟิร์ม  ขอให้เตรียมคำพูดขอบคุณแขกภายในงานไว้เลย ซ้อมพูดไว้ได้ก็จะดีมาก

 

19.ที่จอดรถไม่เพียงพอ ไม่ดีแน่นอน เรื่องสถานที่จอดรถเป็นสิ่งสำคัญอย่างมาก และคำถามที่เกิดขึ้นเมื่อเข้ามาดูสถานที่จัดงาน คือ ที่จอดรถจอดได้กี่คัน ลองนึกถึงสภาพแขกมางาน 300 ท่าน อย่างน้อยก็ต้องมีที่จอดรถจำนวนมากพอที่จะรองรับแขกได้ หากที่จอดรถไกลก็ควรจะมีรถรับ-ส่งให้บริการ คนที่มาร่วมงานล้วนแต่งตัวสวยงาม รองเท้าส้นสูงแบบส้นเข็ม จะให้มาเดินเหงื่อออก ผมไม่สวย หน้ามันเยิ้มก็คงจะไม่ดี

แอดมินก็ได้อธิบายสิ่งที่คู่บ่าวสาวควรรู้ไว้เบื้องต้น คนที่เคยผ่านงานแต่งงานมาแล้วก็คงจะรู้สึกตรงใจไม่น้อย หากใครมีไอเดียอื่นๆก็มาบอกเล่าให้คู่บ่าวสาวที่กำลังเตรียมตัวอยู่ได้นำไปเป็นแนวทางปรับใช้ให้งานราบรื่นกันดูนะคะ

No Comments Yet.

Leave a comment