งานแต่งงานในฝัน...กับเวลาเตรียมงาน 6 เดือน
ถ้าหากคุณเป็นอีกหนึ่งคนที่อยากสร้างความฝันในการแต่งงานด้วยมือคุณเอง หากไม่อยากเหนื่อยเกินไป คุณควรมีเวลาก่อนการแต่งงานประมาณ 6 เดือน ซึ่งแน่นอนว่าคุณจะต้องยิ้มแก้มปริกับความทรงจำอันสวยงามนี้ไปอีกนาน เพราะวันแห่งความทรงจำของคุณไม่ใช่แค่ “วันแต่งงาน” วันเดียว แต่กลับกลายเป็นทุกๆวันของหกเดือนที่คุณอยู่กับงานแต่งงานของตัวเอง
ไม่ใช่คุณคนแรกที่มีความคิดเช่นนี้ เชื่อว่ามีมาแล้วหลายคู่ที่ได้บรรจงจับปากกาวาดงานแต่งงานอย่างเป็นขั้นเป็นตอนอย่างสวยงาม ขนาด organizer ต้องชิดซ้าย อย่าลืมว่าคุณมีสิ่งหนึ่งที่เหล่า organizer ไม่มี นั้นคือ “ความเป็นตัวของคุณเอง” คุณรู้ว่าคุณต้องการอะไร และคุณรู้ว่าคู่รักของคุณต้องการอะไร ไม่มีใครที่ตอบสนองเรื่องราวเหล่านี้และถ่ายทอดมันออกมาได้งดงามเท่าคุณ
สิ่งแรกที่คุณต้องทำคือ “หยิบปากกา” แล้วจดสิ่งที่คุณคิดว่ามันควรจะต้องมีในงานแต่งงานก่อน โดยที่ไม่ต้องเสิร์ชหาอะไรใน google ไม่ต้องถามเพื่อน ไม่ต้องถามความคิดเห็นใครทั้งสิ้น ยังไม่ต้องเรียงลำดับความคิดว่าอะไรมาก่อนมาหลัง เอาแค่รายละเอียดว่าต้องมีอะไรบ้างเท่านั้นพอ... เมื่อคุณได้รายละเอียดทั้งหมดแล้ว คุณลองจินตนาการดูว่า คุณควรมีเวลาให้แต่ละอย่างเท่าใดบ้าง ซึ่งตรงนี้ค่อนช้างเป็นเรื่องยาก มีวิธีให้คุณทำให้มันง่ายขึ้นหน่อยคือ แบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ สิ่งที่ต้องทำก่อนงานแต่งงาน และสิ่งที่ต้องเกิดขึ้นในวันแต่งงาน
คราวนี้คุณกับคู่รักของคุณก็ต้องมากำหนดว่าคุณพอใจจะจัดงานวันหมั้นและวันแต่งงานวันเดียวกันหรือไม่ และงานหมั้นจะจัดแบบไทย แบบจีน หรือ ยุโรป มีพิธีทางพุทธศาสนา หรือ พิธีทางคริสต์ศาสนา หรือไม่ จะเชิญแขกมาร่วมงานประมาณกี่คน และอยากจัดงานเลี้ยงแบบใด เมื่อได้แล้วคุณก็กำหนดวงเงินของคุณสำหรับการจัดงานเลี้ยงรับรอง เพราะจุดนี้เองจะเป็นจุดชี้ว่าคุณควรต้องเลือกโรงแรมแบบใด เมื่อคุณได้วงเงินเป็นที่ชัดเจน ก็ตัดตัวเลือกของโรงแรมไปได้ค่อนข้างเยอะ หลังจากนั้นคุณก็ต้องเอาจำนวนแขกมาช่วยในการตัดตัวเลือกอีกครั้ง เพราะบางโรงแรมอาจไม่สามารถรับจำนวนแขกที่คุณต้องการได้ ในส่วนตรงนี้ใช้เวลาประมาณ 15 วัน สำหรับการตัดสินใจเลือกโรงแรมและไปจองโรงแรม แต่คุณต้องเผื่อเวลาไว้ด้วย เพราะในช่วงฤกษ์ดี โรงแรมที่คุณต้องการอาจไม่ว่างก็ได้ คุณก็จำเป็นต้องหาตัวเลือกสำรองกันไว้บ้าง
เมื่อโรงแรมลงตัว จำนวนแขกลงตัว ลักษณะงานแต่งงานลงตัว ก็จะต้องมาเลือก package แต่งงาน โดยทางโรงแรมก็จะกำหนดให้ว่า ถ้าคุณจ่ายเงินเท่านี้ คุณจะได้รับอะไรในวันงาน และวันครบรอบ 1 ปีบ้าง บางโรงแรมจะเหมาแพคเกจให้คุณทั้งงานหมั้นและงานแต่งงาน เวลาของคุณก็หายไปเกือบจะเดือนครึ่งสำหรับการต่อรองเข้าไปพูดคุยรายละเอียดจนกว่าจะลงตัว ขอแนะนำว่าให้ตกลงกันให้ดีระหว่างโรงแรมและคู่บ่าวสาว เพราะเมื่อถึงวันจริง ต่างฝ่ายต่างไม่มีเวลามานั่งดูสิ่งที่เกิดขึ้น ทางคู่บ่าวสาวเองก็จะต้องแจ้งสิ่งที่ต้องการให้เคลียร์มากที่สุด เพื่อไม่ให้เกิดความสับสนกันขึ้น
สิ่งที่ไปคือ “ชุดแต่งงาน” อยากได้ชุดแบบสั่งตัดตามแบบ (tailor-made) ก็ต้องเผื่อเวลาเอาไว้เยอะหน่อย ไม่ต้องกลัวว่าจะอ้วนจะผอมถ้าสั่งก่อนเดี๋ยวชุดใส่ไม่ได้ จากผู้มีประสบการณ์มาแล้วบอกได้เลยว่า คุณจะต้องแก้ชุดงานแต่งงานจน “วินาทีสุดท้าย” บางครั้งไปถึงในงานแล้ว ยังต้องเย็บขึ้น เย็บลงกันอยู่เลย เพราะเจ้าสาวเดินไม่สะดวก ซึ่งสิ่งนี้อยากให้เจ้าสาวระวังไว้สักนิดนึง เพราะชุดแต่งงานที่ยาวและมีชายหนัก แม้ว่าจะสวยงามมากก็จริงแต่ก็ทำเจ้าสาวล้มตีลังกามาแล้วหลายคน ยิ่งบวกกับความเขินระหว่างเดิน พร้อมกับรองเท้าส้นสูงแบบพิเศษที่ไม่ชินในวันงาน รับรองได้ว่าคุณจะเดินไม่คล่องแน่นอน สำหรับชุดคุณผู้ชาย เดือนสุดท้ายตัดก็ยังทันค่ะ สำหรับชุดแต่งงานอยากให้มีเวลาให้ช่างซัก 3 เดือน เพื่อให้ไม่กดดันทั้งสองฝ่ายค่ะ
การ์ดแต่งงาน เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่เชื่อว่าทุกคู่ต้องพิถีพันถัน บางงานอาจจะมีการ์ด 2 ชุด สำหรับแขกผู้ใหญ่ และอีกชุดสำหรับเพื่อนเจ้าสาวเจ้าบ่าว ไอเดียการ์ดแต่งงานเดี๋ยวนี้ก็ไม่ใช่แค่กระดาษสี่เหลี่ยมแข็งๆ หรือกระดาษพับครึ่ง บอกได้ว่าแบบสมัยนี้มีให้เลือกจนเลือกไม่ถูก ไม่ว่าจะเป็นการ์ดพลาสติกขนาดเท่านามบัตร หรือจะเป็นทรงหัวใจ หรือจะทรงกลมเจาะรูตรงกลาง ราคาก็มีตั้งแต่ 7บาท เลยไปถึงหลายร้อยบาท ต้องบอกว่าส่วนนี้ก็ต้องใช้เวลากว่าจะชึ้นแบบ ตรวจตัวอักษร ลองพิมพ์ บางรายไม่พอใจเปลี่ยนแบบอีก ใช้เวลาไปๆมาๆ ก็ต้องมี 45 วันหรือเกือบ 2 เดือน ต่อการพิมพ์ประมาณ 400 ใบ โดยหากเป็นในช่วงฤกษ์ดีแล้วละก็...ขอให้เตรียมเวลาเพิ่มไว้อีก 15 วัน
ของชำร่วย ใครอยากได้ของ handmade ควรเตรียมเวลาไว้ประมาณ 1-2 เดือน ขึ้นอยู่กับว่าสิ่งที่คุณเลือก เป็นอะไร ซึ่งบางคู่มีการยกน้ำชาตามแบบพิธีจีน และพิธีรับไหว้ก็จะต้องเตรียมส่วนนี้ไว้ด้วย ไอเดียของชำร่วยเดี๋ยวนี้ก็มีไม่แพ้การ์ดแต่งงาน แทบจะทุกอย่างที่สามารถนำมาทำเป็นของชำร่วยได้ ตั้งแต่ชอคโกแลตหนึ่งชิ้นห่อแพคเกจสวยๆ ไปจนถึงเนคไทแบรนด์เนมสุดหรู
มาถึง pre-wedding การถ่าย pre-wedding อย่างบางคนก็ถ่ายกันเองค่ะ เดี๋ยวนี้ยิ่งเทคโนโลยีก้าวหน้า หากคุณต้องการความชัดเจนแปลกตาในแบบคุณ แนะนำว่าเพื่อนข้างตัวคุณเองรู้จักคุณดี คราวนี้จะตีลังกาถ่าย หงายหน้าหงายหลังถ่ายคุณก็จะไม่เขินอายอย่างแน่นอน และรูปภาพของคุณก็จะเป็นธรรมชาติอย่างที่คุณอยากได้ บางรายเจ้าบ่าวเจ้าสาวลงทุนถ่ายกันเอง อันนี้ก็เคยมีมาให้เห็นกันแล้ว สำหรับคู่ที่ต้องการความหรูหราอลังการ เดี๋ยวนี้ก็มีทีมช่างภาพมากมายให้เลือก บางคู่ถ่ายกัน 4-5 เซต เพื่อเก็บไว้ดู ก็แล้วแต่ความต้องการกันเลยค่ะ ในส่วนนี้หากจ้างช่างภาพถ่ายก็ควรเพื่อเวลาไว้ให้เลือกภาพ แต่งภาพกันซัก 1 เดือน หรือ เดือนครึ่งก็น่าจะปลอดภัย
วีดีโอพรีเซนเตชั่น สุดเจ๋ง ด้วยตัวเอง หากคุณมีความสามารถในการตัดต่อวีดีโอพรีเซนเตชั่น ไม่ว่าจะเป็น IMOVIE หรือ จะเป็น AFTEREFFECT หรือ PREMIERPRO หรือ MOVIE MAKER คุณก็สามารถสร้างสรรผลงานคุณด้วยมือคุณเอง หรืออยากจะจ้างทำก็ต้องเผื่อเวลาสัก 1 เดือนเช่นเดียวกับส่วนอื่นๆ โดยวีดีโอไม่ควรมีความยาวเลย 5 นาที เพราะผู้ร่วมงานจะเริ่มหมดความสนใจ
มาถึงตรงนี้ส่วนที่ต้องเตรียมงานก่อนงานแต่งงานก็หมดแล้ว เหลือแค่รอเวลาและเช็คความเรียบร้อยของสิ่งของต่างๆ รวมถึงชุดแต่งงาน ของชำร่วย หรือ การ์ดแต่งงาน ต่อไปก็มาถึงส่วนของงานแต่งงานกันแล้วค่ะ
แน่นอนว่างานแต่งงานต้องมี “ช่างถ่ายภาพ” ลามไปถึง “ช่างถ่ายวีดีโอ” ที่นี้ก็มีสองไอเดีย คือ จ้างทีมเดียวแพงๆ หรือ จ่ายหลายๆทีมแต่ราคาไม่แพงมาก ขึ้นอยู่กับจำนวนแขกและขนาดของห้องที่จัดงานด้วย ทางผู้เขียนเองได้มีประสบการณ์ในการเลือกช่างภาพหลายทีม ยอมรับว่ามีความสุขกับภาพที่ได้มาก เพราะช่างแต่ละทีม แต่ละคนมีมุมมองที่แตกต่างกัน โดยก่อนถึงงานได้บรีฟช่างภาพก่อนว่าต้องการภาพแบบใด โทนสีใด ทางทีมงานช่างภาพจะได้เตรียมอุปกรณ์มาถูก
สิ่งที่หินที่สุดเห็นจะเป็น การเตรียมของใช้ในพิธีการแต่งงาน ยิ่งคู่ใดมีพิธีจีนด้วยแล้วละก็...จะหัวปั่นก่อนวันงานล่วงหน้าประมาณ 3-5 วัน เพราะต้องจัดเตรียมของที่ใช้ในงานจำนวนมาก โดยลองหาอ่านได้ในบทความที่เคยเขียนไว้เรื่อง “การแต่งงานตามขนบธรรมเนียมจีน : ธรรมเนียมแห่งวามเชื่อที่ยังคงอยู่” ครั้งต่อไปเราจะมาแนะนำการสร้างทีมงานorganizer สำหรับงานแต่งงานด้วยตัวคุณกันค่ะ
Chalita S.
ขวัญ