ใครที่เพิ่งถูกขอแต่งงานกันบ้าง ยกมือขึ้นนนนนน แอดมินจะบอกว่าเมื่อเราได้กลายเป็นผู้โชคดี ไม่ต้องผ่านค่ำคืนที่แสนเหน็บหนาวไปคนเดียวอีกต่อไป (อันที่จริงประเทศไทย ต้องบอกว่า ผ่านค่ำคืนที่แสนร้อนระอุเสียมากกว่า) เราเริ่มจะคิดถึงชุดเจ้าสาวแบบซินเดอเรล่า หรือ เอลซ่าแสนน่ารัก ไม่ใช่แหละ ชุดเจ้าสาวในฝันตามห้องเสื้อสุดหรู หรือ ชุดแสนอาฟเตอร์ปาร์ตี้แดนซ์ให้มันกันกระจาย
แต่...อย่าเพิ่งไปถึงตรงนั้น เราต้องหาสถานที่จัดงานกันให้ได้ก่อน และก่อนจะหาจัดสถานที่จัดงานได้ เราต้องเริ่มจาก 5 สิ่งเหล่านี้ จะมีอะไรกันบ้าง ตามไปดูกันได้เลยค่ะ
1.ฤกษ์จัดงาน
เราเป็นคนไทย เรื่องฤกษ์เรื่องยามนั้นสำคัญยิ่งเป็นงานมงคลสำคัญของชีวิตด้วยแล้ว โดยทั่วไปการดูฤกษ์ยามทางผู้ใหญ่จะเป็นหาฤกษ์มาให้ แอดมินก็เช่นกันค่ะ ในการหาฤกษ์ได้รับมา 2-3 ฤกษ์ ฤกษ์แรกก็ใกล้แบบยังไม่ทันหายใจ จะไปเตรียมตัวทันกันได้อย่างไร อีกฤกษ์ก็ห่างไปประมาณ 6-8 เดือน สบายใจหน่อยพอมีเวลาหายใจหายคอเตรียมตัวเตรียมงาน แต่หากใครมีฤกษ์ใกล้ และอีกทีก็ไกลไปเลยจนรู้สึกว่า โอ๊ย !ไม่ไหวนานเกินไป ก็หาตัวช่วยง่ายๆ อย่างออแกนไนซ์ช่วยเตรียมงานกัน ก็ยังได้อยู่
2.หน้าร้อน หน้าฝน หรือหน้าหนาว
ฤกษ์มาแล้ว เลือกได้แล้ว รู้แล้วหละซิ วันตกอยู่ในฤดูไหนของเมืองไทย อันที่จริงเมืองไทยมีแค่ 3 ฤดู คือ ร้อน ร้อนมาก และร้อนสุด แต่เอาเป็นว่า เราจะถือว่า เดือนพฤศจิกายน - เดือนมกราคม เป็นหน้าหนาวของเมืองไทยแล้วกัน อันนั้นทำให้คุณสามารถเลือกสถานที่จัดงานแต่งงานกลางแจ้งชมสวน ชมป่าได้ตามใจชอบ แต่ก็อย่าวางใจเตรียมแผนสำรองไว้นิดหน่อยก็จะดีมาก เพราะว่า โอกาสที่จะเจอพายุเข้า ฝนตก ก็มีมากเช่นกัน ในช่วงหน้าร้อน อยากจะจัดงานในสวน ก็มีตัวช่วย สมัยนี้เต๊นท์แอร์มีเยอะแยะไป ส่วนหน้าฝน อยากจะจัดในสวนก็เลือกเต๊นท์รอไว้ได้เลยค่ะ
3. ประเภทของงาน
ฤกษ์ลงตัว ฤดูก็รู้แล้ว มาถึงลักษณะการจัดงาน งานหมั้นไทย งานยกน้ำชา งานแต่งงาน งานอาฟเตอร์ปาร์ตี้ เพราะแต่ละสถานที่จัดงาน หรือโรงแรมจะโดดเด่นในงานเหล่านี้ไม่เหมือนกัน ดังนั้นเมื่อเรารู้แล้วก็เริ่มเสิร์ช Google หาข้อมูลกันไปก่อนได้เลยค่ะ
4.จำนวนแขก
คราวนี้จะต้องกลับไปคำนวณเพื่อนฝูง แขกผู้ใหญ่ ญาติสนิทมิตรสหาย ทั้งของคู่บ่าวสาว และที่สำคัญคือ เพื่อนคุณพ่อ เพื่อนคุณแม่ เพื่อนคุณปู่ เพื่อนคุณย่า เพื่อนคุณตา เพื่อนคุณยาย นับให้ครบและแน่นอนที่สุดขั้นตอนนี้ใช้เวลานานพอสมควรกว่าจะได้ยอดที่ลงตัว ส่วนมากไม่มีหาเพิ่ม แต่เป็นการตัดออกเสียมากกว่า และเรื่องจำนวนแขกถือได้ว่าเป็น คีย์สำคัญของการเลือกสถานที่ และอื่นๆต่อไป อีกทั้งยังเป็นตัวกำหนดค่าใช้จ่ายทั้งหมดของงานอีกด้วย ดังนั้นต้องให้เวลาส่วนนี้ให้มากหน่อยก่อนจะไปต่อ แต่ต้องย้ำว่า ต้องเคลียร์ให้ชัวร์และจบก่อนจะเริ่มเดินต่อไปนะคะ
เพราะว่า แต่ละสถานที่สามารถรับแขกได้จำกัด อีกทั้งแต่ละห้อง แต่ละพื้นที่ก็รับได้จำนวนจำกัดเช่นกัน หากไปงอกเพิ่มหน้างาน หรือใกล้ๆงาน จน Over Capacity จะทำให้งานของคุณดูแน่นจนอึดอัดไม่มีที่ยืนหันไปทางไหนก็เจอแต่คนเต็มไป แอร์ก็ร้อนอีกด้วย หรือทางตรงกันข้ามเกิดคนมาน้อยกว่าที่เลือกห้องไว้ห้องก็ดูโล่งเกินไป ไม่งามอีก
5.ประเภทอาหาร
เรื่องนี้ดูเหมือนไปตัดสินใจกันตอนได้โรงแรมแล้วก็ยังทัน แต่จะบอกว่า ถ้าได้คำตอบไปเลยว่าอยากจัดงานแบบไหน คอกเทลไหม หรือจะบุฟเฟต์ดี จะทำให้ช้อยส์ของโรงแรมหรือสถานที่จัดงานแต่งงานเหลือน้อยลง ไม่ต้องเสียเวลาไปดูที่ตรงนั้นตรงนี้ให้เหนื่อยฟรี เพราะทุกนาทีนั้นมีค่าเสมอ โรงแรมแต่ละที่ก็มีลักษณะของอาหารที่โดดเด่น โดนใจ ทั้งหน้าตาและรสชาติแตกต่างกันไป
ก่อนที่เราจะเดินหา "สถานที่จัดงานแต่งงาน" หากเรามีคำตอบจาก 5 สิ่งที่ควรเตรียมไว้แล้ว จะทำให้เราเสียเวลาในการเลือกสถานที่น้อยลงไปมาก ยิ่งโดยเฉพาะคนที่มีเวลาจำกัดแบบจวนตัวแล้ว จะทำให้คุณเตรียมตัวได้ง่ายขึ้นเยอะเลยค่ะ
Chalita S.
ขวัญ