เกาะเกร็ด
เกาะเกร็ด แต่เดิมในสมัย พ.ศ. 2265 เรียกว่า “คลองลัดเกร็ดน้อย” เกิดจากการขุดคลองลัดแม่น้ำเจ้าพระยาในสมัยสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวท้ายสระ ในสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย ต่อมากระแสน้ำเปลี่ยนทิศทางแรงขึ้นเซาะตลิ่งแผ่นดินตรงแหลมจึงกลายเป็นเกาะ หากสังเกตจะพบว่าวัดวาอารามและสถาปัตยกรรมบนเกาะแห่งนี้ส่วนมากจะเป็นศิลปะในสมัยกรุงศรีอยุธยา แต่คงจะมาร้างเมื่อพม่ายึดกรุงศรีอยุธยาได้ หลังจากที่สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชทรงกอบกู้เอกราชได้ จึงโปรดให้ชาวมอญเข้ามาตั้งถิ่นฐาน
หากคุณเป็นผู้ที่ชื่นชอบการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ชมทัศนียภาพในแบบวิถีชาวบ้านแล้วเกาะเกร็ด ถือได้ว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวแห่งหนึ่งที่น่าสนใจ ซึ่งเป็นสถานที่ทราบกันว่าเป็น “ชุมชนชาวมอญ” ที่มีชื่อเสียง โดดเด่นเกี่ยวกับ “เครื่องปั้นดินเผา” เช่น โอ่ง กระถางเซรามิก และ “ประเพณีวัฒนธรรมพื้นบ้านแบบดั้งเดิมที่ยังคงอนุรักษ์ไว้เป็นอย่างดี หากคุณเป็นคนที่ชื่นชอบและหลงรักในการลิ้มลองอาหาร คุณจะต้องไม่พลาด “ทอดมันหน่อกะลา” และ “ดอกไม้ทอด” อันเลื่องชื่อ
คุณสามารถนั่งเรือข้ามฟากจากฝั่งปากเกร็ดโดยจ่ายค่าเรือข้ามฟากเพียง 5 บาทต่อท่าน ร้านส่วนมากของเกาะเกร็ดจะเปิดให้บริการในวันเสาร์-วันอาทิตย์ ตั้งแต่ 10.00-17.00 น. นอกจากนี้ยังมีทัวร์เรือเกาะเกร็ดให้บริการอีกมากมาย เพื่อให้บริการลูกค้าที่สนใจจะชมวิวธรรมชาติสองฝั่งคลองรอบเกาะเกร็ด
คลองขนมหวาน
คลองขนมหวาน เป็นคลองริมน้ำซึ่งมีชุมชนหลายครัวเรือนนิยมทำขนมไทย และขนมหวานนานาชนิด ถือว่าเป็นแหล่งรวมความอร่อยของขนมไทยและอาหารโบราณ โดยทุกท่านสามารถขึ้นไปชมการทำขนมไทย เช่น ฝอยทอง ทองหยิบ ทองหยอด จ่ามงกุฎ เสน่ห์จันทน์ พร้อมเลือกซื้อสินค้านานาชนิดเป็นของฝากได้การเดินทางไม่ได้ยากอย่างที่คิด โดยคุณสามารถติดต่อจ้างเรือหางยาวจากบริเวณท่าน้ำปากเกร็ด ราคาอยู่ที่ประมาณ 300-1,500 บาท หรือจะโดยสารเรือจากท่าน้ำปากเกร็ด สายปากเกร็ด-ท่าอิฐ-บางบัวทอง โดยเรือจะผ่านเฉพาะศูนย์บ้านขนมหวาน (บ้านคุณแอ๋ว) อีกเส้นทางหนึ่งที่น่าสนใจไม่แพ้กัน คือ วัดปรมัยยิกาวาสวรวิหาร มีเรือทัวร์รอบเกาะ ให้บริการในวันเสาร์-วันอาทิตย์ หากต้องการสอบถามรายละเอียดติดต่อได้ที่
สำนักงาน การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ภาคกลาง เขต 6
โทรศัพท์ : 035-246076-7
สายตรง : 1672
วัดปรมัยยิกาวาส
วัดปรมัยยิกาวาส สร้างขึ้นปี พ.ศ. 2317 โดยชาวรามัญที่อพยพมาเดิมชื่อ “วัดปากอ่าว” ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 5 โปรดให้บูรณสังขรณ์ใหม่และได้พระราชทานนามว่า “วัดปรมัยยิกาวาส” ซึ่งมีความหมายว่า “วัดของพระบรมอัยยิกา เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล สนองพระคุณสมเด็จพระเจ้าบรมอัยยิกาเธอกรมพระยาสุดารัตน์ราชประยูรผู้ทรงอภิบาลพระองค์มาแต่ทรงพระเยาว์
ภายในวัดมีหลายสิ่งหลายอย่างที่น่าสนใจ เช่น พระอุโบสถที่ตกแต่งด้วยวัสดุนำเข้ามาจากยุโรปในสมัยสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวมหาราช ภาพวาดภายในผนังพระอุโบสถ และลวดลายปูนปั้นที่บานประตู นอกจากนี้ยังมีวิหารพระพุทธไสยาสน์สมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย พระมหารามัญเจดีย์ซึ้่งจำลองมาตามแบบเจดีย์ชเวดากองแห่งประเทศพม่า พระนนทมุนินท์ พระพุทธรูปประจำจังหวัดนนทบุรี และสุดท้าย พระเจดีย์เอียงริมน้ำเกาะเกร็ดที่กลายเป็นสัญลักษณ์ประจำเกาะเกร็ด
วัดกู้
วัดกู้ ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ตำบลบางพูด ในซอยปากเกร็ด 3 บริเวณริมน้ำหน้าวัดเป็นจุดที่เรือพระที่นั่งของสมเด็จพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์ พระมเหสีในสมเด็จพระจุลจอมเกล้าอยู่หัวประสบอุบัติเหตุเรือล่มสิ้นพระชนม์ วัดนี้สร้างในสมัยกรุงธนบุรี เป็นศิลปะแบบมอญ ภายในโบสถ์หลังเก่ามีภาพจิตรกรรมฝาผนังแบบมอญ เป็นภาพเขียนสีน้ำมันเรื่องราวพุทธประวัติ วิหารประดิษฐานพระนอนองค์ใหญ่ด้านข้างวิหารเป็นที่เก็บเรือพระที่นั่งของพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์ที่อับปางซึ่งชาวบ้านได้กู้ขึ้นมา และมีพระตำหนักที่สร้างขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์สถานที่สมเด็จพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์สิ้นพระชนม์และเมื่อคราวเรือล่ม
การเดินทาง : รถยนต์/เรือ
รถยนต์ เข้าซอยวัดกู้ มาตามถนนสุขาประชาสรรค์ ผ่านวัดบางพูดนอก โรงแรมบัดดี้ โอเรียนทอล ริเวอร์ไซด์ ระยะทางประมาณ 3 กิโลเมตรจะเห็นวัดกู้อยู่ด้านซ้ายมือ
เรือ เช่าเรือจากท่าน้ำปากเกร็ดแล่นมาทางเหนือประมาณ 3 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 10 นาที จะเห็นท่าน้ำวัดกู้อยู่ทางขวามือ
